1

นำทางไปยัง การจัดการผลิตภัณฑ์ > การจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์ > งาน > จัดทำสินค้า

INV.P1.01: ตรวจสอบรายละเอียดในแบบฟอร์มคำขอ

เจ้าหน้าที่ดูแลข้อมูลรหัสพัสุด (Item Code) ในระบบ Oracle Fusion ทำการตรวจสอบรายละเอียดในแบบฟอร์มคำขอเพิ่มรายการรหัสพัสดุใหม่ในระบบ

2

INV.P1.02: ตรวจสอบข้อมูลในเมนู "จัดการรายการพัสดุ" ในระบบ

เจ้าหน้าที่ดูแลระบบทำการตรวจสอบข้อมูลในระบบผ่านหน้าจอจัดการสินค้า เพื่อค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับรายการพัสดุว่ามีอยู่ในระบบหรือไม่

นำทางไปยัง การจัดการผลิตภัณฑ์ > การจัดการผลิตภัณฑ์ > จัดการสินค้า

3

INV.P1.03 : รหัสวัสดุนี้มีอยู่ในระบบหรือไม่

หากใช่ พบข้อมูลรหัสพัสดุในระบบ Oracle Fusion ทำการอัปเดตรายละเอียดรหัสพัสดุดังกล่าวกลับไปให้ผู้ที่เปิดรายการคำขอเพิ่มรหัสพัสดุใหม่ในระบบ อ้างอิงกระบวนการ PROC.P2-3 กระบวนการขอสร้างรหัสพัสดุ (Item Code) ในระบบ

หากไม่ใช่ ไม่พบข้อมูลรหัสพัสดุในระบบ Oracle Fusion ตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลพื้นฐานตามคำขอในแบบฟอร์มขอเพิ่มรหัสพัสดุ เพื่อสร้างข้อมูลพื้นฐานก่อน อ้างอิงกระบวนการ INV.P1-1: กระบวนการสร้างข้อมูลพื้นฐานเพื่อสร้างรหัสพัสดุ

4

INV.P1.04 : อัปเดตข้อมูลและสถานะรายการพัสดุ

เจ้าหน้าที่แจ้งรหัสสินค้าที่สามารถใช้ได้และอัปเดต รายละเอียดรหัสพัสดุ (Item Code) ที่สามารถใช้งานได้ในระบบกลับไปให้ผู้ที่เปิดรายการขอขอเพิ่มรหัสใหม่ในระบบทราบผ่านการยืนยันในขั้นตอนกระบวนการการอนุมัติ อ้างอิง PROC.P2-3 กระบวนการขอสร้างรหัสพัสดุ (Item Code) ในระบบ

5

INV.P1-1: กระบวนการสร้างข้อมูลพื้นฐานเพื่อสร้างรหัสพัสดุ

ในกระบวนการสร้างข้อมูลพื้นฐานเพื่อสร้างพัสดุหลัก (Item Master) ต้องกำหนดข้อมูลพื้นฐานก่อนสร้างสินค้าใหม่ดังนี้:

·      หน่วยนับ (Unit of Measure)

·      หมวดหมู่ (Categories)

·      รหัสคลังสินค้า (Inventory Organization)

·      ขั้นสินค้า (Item Class)

เมื่อตั้งค่าข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้แล้ว ให้นำไปใช้กับสินค้าใหม่

6

INV.P1.05: เลือกวิธีการสร้างรายการพัสดุใหม่

เลือกวิธีการสร้างรายการพัสดุใหม่ ผู้ใช้ต้องตัดสินใจเลือกวิธีการสร้างรหัสใหม่ได้ดังนี้

หากสร้างรายการจากรายการที่มีอยู่แล้ว ไปขั้นตอนเลือกสร้างรายการจากรายการที่มีอยู่แล้ว (INV.P1.06)

หากต้องการสร้างรหัสใหม่เอง ไปขั้นตอนสร้างรายการพัสดุ (INV.P1.08)

หากต้องการอัปโหลดรายการผ่านเทมเพลต ไปขั้นตอนเตรียมและอัปโหลดรายการผ่าน FBDI template (INV.P1.18)

7

INV.P1.06: เลือกจำนวนรายการรหัสพัสดุที่จะคัดลอก

เมื่อผู้ใช้ต้องการคัดลอกสินค้าที่คล้ายกับสินค้าที่มีอยู่แล้ว สามารถใช้ฟังก์ชันนี้ได้ ในขณะที่สร้างสินค้าใหม่จากการคัดลอก ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ควรป้อนหมายเลขสินค้าที่ต้องการคัดลอกคุณสมบัติและข้อมูลไปยังสินค้าใหม่

·    เลือกขั้นสินค้า (Item Class) ได้แก่ ชั้นสินค้าระดับยา (Phar Item Class) หรือ ชั้นสินค้าระดับรูท (Root Item Class)

·    เลือกตัวเลือก "สร้างจากการคัดลอก"

·    เลือกรายการสินค้า

·    เลือกสินค้าจากรายการเพื่อคัดลอก

8

INV.P1.07: คัดลอกรายละเอียด และรูปแบบจากรหัสพัสดุของเดิม

เลือกลำดับของการคัดลอกคุณสมบัติและเทมเพลต

ตัวอย่าง: เทมเพลตสินค้าซื้อ, เทมเพลตสินค้าสำเร็จรูป, เทมเพลตสินค้าบริการ ฯลฯ

เมื่อผู้ใช้ยืนยันโดยการคลิก "ตกลง" ระบบจะคัดลอกข้อมูลทั้งหมดจากสินค้าที่มีอยู่และแสดงบนหน้าจอ ผู้ใช้สามารถป้อนรหัสสินค้าใหม่และเปลี่ยนคำอธิบายได้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ / ปรับปรุงข้อมูลอื่น ๆ บนหน้าจอ (ไปขั้นตอนที่ INV.P1.11)

หมายเหตุ: ต้องมีการกำหนดเทมเพลตของประเภทรหัสที่ต้องการสร้างในระบบเอาไว้แล้ว โดยมีการกำหนดค่าตั้งต้นคุณลักษณะ (Attribute) ในแต่ละเทมเพลตตามกลุ่มประเภทของรหัสพัสดุ (Item Code) เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกใช้งานสร้างรหัสใหม่ในระบบ

เทมเพลตที่ให้เลือก เช่น

·      Purchased Item

·      Purchased Lot

9

INV.P1.08 : สร้างรายการพัสดุใหม่

เมื่อผู้ใช้ต้องการสร้างสินค้าโดยตรง โดยไม่ต้องการคัดลอกรายการที่มีอยู่ในระบบ สามารถเลือกตัวเลือก "สร้างสินค้า"

·    ป้อนจำนวนสินค้าที่คุณต้องการสร้าง

·      เลือกชั้นสินค้า (Item Class) ที่กำหนดไว้ในระบบ เช่น MEDICAL,GENERAL หรือ UNSPSC

10

INV.P1.09 เลือก template เพื่อคัดลอก

เลือกลำดับของการคัดลอกคุณสมบัติและเทมเพลต

ตัวอย่าง: เทมเพลตสินค้าซื้อ, เทมเพลตสินค้าสำเร็จรูป, เทมเพลตสินค้าบริการ ฯลฯ

หมายเหตุ: ต้องมีการกำหนดเทมเพลตของประเภทรหัสที่ต้องการสร้างในระบบเอาไว้แล้ว โดยมีการกำหนดค่าตั้งต้นคุณลักษณะ (Attribute) ในแต่ละเทมเพลตตามกลุ่มประเภทของรหัสพัสดุ (Item Code) เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกใช้งานสร้างรหัสใหม่ในระบบ

11

INV.P1.10: ระบุรายละเอียด

ผู้ใช้สามารถป้อนข้อมูลบนหน้าจอ เช่น รหัสพัสดุ, คำอธิบาย, กลุ่มสินค้า (Item Class) , ประเภทสินค้า (Item Type) , หน่วยนับ (UOM) และกำหนดข้อมูลทั้งหมดของพัสดุในระบบได้ด้วยตนเอง

สามารถเพิ่มไฟล์ภาพหรือรายละเอียดเพิ่มเติม

การเพิ่มไฟล์ภาพหรือรายละเอียดเพิ่มเติม

กด +

เลือกประเภทไฟล์ และ เลือกไฟล์

เลือกหน่วยนับหลักที่ใช้คำนวนต้นทุนต่อหน่วย และเป็นหน่วยสินค้าคงคลัง

กรณีบันทึกข้อมูลเรียบร้อยแล้วระบบจะไม่อนุญาติให้แก้ใขหน่วยนับหลักได้อีก

เลือกหน่วยนับ

12

INV.P1.11 ตรวจสอบ / ปรับปรุงข้อมูลรายการอื่นๆ

ตรวจสอบรายการที่สร้างโดยใช้เทมเพลต "สร้างรหัส" และคัดลอกจากรหัสที่มีอยู่เพื่ออัปเดตข้อมูลอื่นๆ

13

INV.P1.12 ตรวจสอบข้อผิดพลาด

ระบบช่วยตรวจสอบข้อผิดพลาด เช่น มีฟิลด์ (Field) ไหนบ้างที่เป็นฟิลด์ที่จำเป็น (Mandatory Field) แต่ไม่มีการระบุ ระบบจะแจ้งเตือนให้ทราบว่าข้อมูลที่บันทึกยังไม่เสร็จสมบูรณ์ต้องไปทำการแก้ไขและปรับปรุงให้เรียบร้อยก่อนจึงจะทำการบันทึกข้อมูลได้

หากไม่ถูกต้อง ให้ไปขั้นตอนตรวจสอบ / ปรับปรุงข้อมูลรายการอื่นๆ (INV.P1.11)

หากถูกต้อง ไปขั้นตอนบันทึกข้อมูล (INV.P1.13)

14

INV.P1.13 บันทึกข้อมูล

เมื่อผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลและแก้ไขปัญหาในการสร้างรหัสสินค้าใหม่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นคลิก "บันทึก" ข้อมูลในระบบ

15

INV.P1.14 ระบุรหัสทดแทน (ถ้ามี)

ระบบสามารถรองรับการใช้รหัสทดแทนหรือแทนที่กันได้ หากรหัสไหนมีการต้องการกำหนดรหัสทดแทน ยกตัวอย่างเช่น รหัส A สามารถแทนที่ด้วยรหัส B เมื่อไหร่ที่มีการจัดซื้อรายการรหัส A แต่ผู้ขายไม่สามารถจัดส่งรหัส A ได้ขอเปลี่ยนเป็นการนำส่งด้วย รหัส B เพื่อทดแทนรหัส A ที่ยกเลิกการผลิตไปแล้ว สามารถทำการบันทึกรับในระบบได้ โดยที่ในใบสั่งซื้อแสดงเป็นรหัส A แต่การบันทึกรับจากการตรวจรับเป็นรหัส B เป็นต้น

หมายเหตุ: ทางมหาวิทยาลัยต้องมีการกำหนดรหัสทดแทนเอาไว้เมื่อทราบว่ารายการรหัสพัสดุไหน สามารถมีรหัสที่ใช้ทดแทนกันได้ มิเช่นนั้นจะไม่สามารถทำการรับรายการทดแทนในระบบตามที่ได้อธิบายไว้ในเบื้องต้น

เลือกเมนู ความสัมพันธ์

เลือก การดำเนินการ > สร้าง

ระบุสินค้า และ ประเภทความสัมพันธ์

16

INV.P1.15 ระบุหมวดหมู่

กำหนดหมวดหมู่ (Categories) ให้กับรหัสพัสดุที่สร้างใหม่

17

INV.P1.16 ระบุคลังที่ใช้งานและบันทึกข้อมูล

เมื่อมีการสร้างรหัสพัสดุใหม่ใหม่ รหัสที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ต้องทำการระบุว่าให้สิทธิการการใช้งานรหัสใหม่ให้กับคลังไหนได้บ้าง อย่างน้อยระบบจะสร้างข้อมูลแรกไว้ที่ องค์กรหลัก (Master Organization) (ชื่อ ITEMOTG) ซึ่งเป็นการบริหารจัดการรหัสใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นในระบบ ยกตัวอย่างเช่น มีการสร้างรหัสใหม่ Item AAA มีการมอบหมายให้กับองค์กรหลัก (Master Organization) ในการดูแลเพื่ออัปเดตค่าบางค่าในระบบ เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมในระบบ และผู้ดูแลระบบพิจารณาว่ารหัสใหม่ที่สร้างขึ้นสามารถใช้ร่วมกับคลังไหนได้บ้าง หากเป็นรหัสใหม่ที่ใช้เป็น รายการทั่วไป เช่น รหัสวัสดุสำนักงานที่ใช้ร่วมกันทั้งองค์กร ต้องมอบหมาย ให้กับทุกคลัง (Inventory Organization) ส่วนบางรหัส เช่น รหัสยา , เวชภัณฑ์ หรือ รหัสใหม่ที่ใช้สำหรับบางคณะส่วนงาน, หน่วยงาน ก็ให้ทำการ Assign ให้เฉพาะคณะส่วนงาน, หน่วยงานที่ใช้เท่านั้น เช่น คณะแพทย์ เป็นต้น

18

INV.P1.17 รหัสพัสดุถูกสร้างในระบบ

เมื่อรหัสถูกสร้างใน Oracle Fusion จากนั้นสินค้าจะสามารถใช้ในการทำธุรกรรมในหน่วยงานการจัดการพัสดุคงคลังที่ได้รับมอบหมาย

19

INV.P1.18 อินเตอร์เฟซไปที่ระบบอื่น

อินเตอร์เฟซไปที่ระบบอื่น

หากใช่ ไปขั้นตอนอินเตอร์เฟซรหัสพัสดุไปยังระบบงานอื่น

หากไม่ใช่ ถือเป็นการถือเป็นการสิ้นสุดกระบวนการ

20

INV.P1.19 อินเตอร์เฟซรหัสพัสดุไปยังระบบงานอื่น

รหัสพัสดุใหม่ถูกสร้างในระบบ ERP และจากระบบนี้จะถูกอินเตอร์เฟสเข้าไปยังระบบงานอื่น เช่น ระบบ HO System

หมายเหตุ: สำหรับรายละเอียดการอินเตอร์เฟซรหัสสินค้าของ ERP ไปยังระบบอื่น ๆ อยู่ในส่วนการออกแบบอินเตอร์เฟซ

21

INV.P1.20 เตรียมและอัปโหลดรายการพัสดุจาก FBDI template

หากจำนวนสินค้ามีมากเกินไปและต้องใช้ฟังก์ชันการอัปโหลด ผู้จัดการผลิตภัณฑ์สามารถใช้เทมเพลตการนำเข้าข้อมูลจากไฟล์เพื่ออัปโหลดรายการสินค้า ข้อมูลการฝึกอบรมโดยละเอียดจะถูกให้ในระหว่างระยะเวลาการอบรม

·     ป้อนข้อมูลสินค้าในเทมเพลต FDBI ที่ oracle จัดหาเพื่อสร้างสินค้าโดยใช้สเปรดชีต

·         จากนั้นอัปโหลดเทมเพลต FDBI เข้าสู่ Oracle Fusion

22

INV.P1.21 ตรวจสอบข้อผิดพลาด

หากไม่ถูกต้อง ไปขั้นตอนจัดการข้อผิดพลาด (INV.P1.22)

หากถูกต้อง ไปขั้นตอนตรวจสอบข้อมูล (INV.P1.23)ตรวจสอบข้อผิดพลาด

23

INV.P1.22 จัดการข้อผิดพลาด

ในขณะที่ทำการอัปโหลด หากมีข้อผิดพลาดในเทมเพลต จะต้องทำการแก้ไข การจัดการข้อผิดพลาดจะถูกอธิบายในขั้นตอนการอบรม

24

INV.P1.23 ตรวจสอบข้อมูล

หลังจากที่สามารถทำการ Upload ข้อมูลรหัสใหม่เข้าระบบ Oracle Fusion ไปเรียบร้อยแล้ว ผู้ดูแลระบบสามารถทำการตรวจสอบข้อมูลรหัสใหม่ในระบบ ผ่านหน้าจอ “จัดการรหัส” (Manage Item) ในระบบ

1

INV.P1-1.01 เพิ่มรหัสหน่วยนับ (UOM)

นำทางไปยัง การตั้งค่าและการจัดการ > ค้นหา > จัดการหน่วยนับ

เพิ่มรหัสหน่วยนับ (UOM)

หากใช่ ไปขั้นตอนเพิ่มข้อมูลหน่วยนับและบันทึกข้อมูล (INV.P1-1.02)

หากไม่ใช่ ไปขั้นตอนเพิ่มรหัสหมวดหมู่ (Categories) (INV.P1-1.04)

2

INV.P1-1.02 เพิ่มข้อมูลหน่วยนับและบันทึกข้อมูล

ผู้ใช้จะต้องสร้างสามารถกำหนดหน่วยนับ
แยกออกตามชั้นได้ โดยเบื้องต้นชั้นหน่วยนับ มักแบ่งออกเป็น ประเภทจำนวน ยกตัวเอย่างเช่น ประเภทปริมาตร ประเภทน้ำหนัก ประเภทน้ำหนัก (Gross) และประเภทความยาว เช่น

·    ประเภทจำนวน เช่น กล่อง ซอง ชิ้น เป็นต้น

·    ประเภทปริมาตร เช่น ตารางฟุต ตารางเมตร เป็นต้น

·    ประเภทน้ำหนัก เช่น กรัม กิโลกรัม ตัน เป็นต้น

·    ประเภทน้ำหนัก (Gross) เช่น กรัม (Gross) กิโลกรัม (Gross) ตัน (Gross) เป็นต้น

·    ประเภทความยาว เช่น เซนติเมตร เมตร เป็นต้น

กำหนดหน่วยนับสำหรับการข้อมูลการสร้างหน่วยนับ (ตัวอย่างเช่น วัน, เดือน, ปี, ไตรมาส, ครึ่งปี, ฯลฯ) ในกลุ่มหน่วยนับระยะเวลา "เวลา"

3

INV.P1-1.03 กำหนดรายละเอียดการแปลงหน่วยนับบันทึกข้อมูล

เพื่อกำหนดการแปลงหน่วยนับสินค้าหรือวัตถุดิบๆ ระหว่างหน่วยนับของคลาสเดียวกันและของคลาสต่าง ๆ ในหน้าที่การตั้งค่าการแปลงหน่วยนับ เช่น การแปลงหน่วยนับระยะเวลาระหว่างหน่วยของผู้ใช้ (หน่วยนับระยะเวลา - วัน, เดือน, ปี, ไตรมาส, ครึ่งปี, ฯลฯ ที่กำหนดไว้ก่อน) และหน่วยหลัก (วัน, เดือน, หรือ ปี)

4

INV.P1-1.04 เพิ่มรหัสหมวดหมู่ (Categories)

เพิ่มรหัสหมวดหมู่ (Categories) เป็นการจัดกลุ่มรายการพัสดุ ว่าอยู่ในหมวดหมู่ไหน เช่น หมวดหมู่วัสดุสำนักงาน , ค่าใช้จ่ายหรือบริการ , ครุภัณฑ์ , สินค้า เป็นต้น

หากใช่ ยังไม่มีการกำหนดข้อมูลหมวดหมู่ในระบบไปขั้นตอนเพิ่มรหัสหมวดหมู่และบันทึกข้อมูล (INV.P1-1.05)

หากไม่ใช่ มีการกำหนดข้อมูลดหมวดหมู่ในระบบเรียบร้อยแล้ว ไปขั้นตอนเพิ่มรหัสคลัง (Inventory Organization) (INV.P1-1.07)

5

INV.P1-1.05 เพิ่มรหัสหมวดหมู่และบันทึกข้อมูล

หมวดหมู่คลาวด์ให้ความยืดหยุ่นสูงสุดในการเลือกโครงสร้างที่สามารถรองรับรหัสเช่น UNSPSC หรือข้อความธรรมดาเช่น "โน้ตบุ๊ค" บันทึกแต่ละหมวดหมู่อนุญาตให้มีชื่อ รหัส คำอธิบาย รูปภาพ และเอกสารแนบที่สามารถนำมาใช้ในหลายวิธี ขณะตัดสินใจเกี่ยวกับหมวดหมู่ที่จำเป็น จุดเริ่มต้นที่สามารถใช้ได้โดยทั่วไปคือ รหัสบัญชีจากโครงสร้างบัญชี รหัสบัญชีนี้จะเป็นการจัดกลุ่มรายการซื้อที่เป็นพื้นฐานภายในหมวดหมู่การซื้อที่สามารถเรียบเรียงเป็นกลุ่มที่เจริญระดับมากขึ้นในหมวดหมู่การซื้อ

6

INV.P1-1.06 เชื่อมโยงรหัสบัญชีกับรหัสหมวดหมู่

สร้างเซตการแมปพร้อมข้อมูลเข้าเป็นชื่อหมวดหมู่สินค้า สร้างชุดการแมปที่มีนามสกุลรายการเป็นชื่อหมวดหมู่และผลลัพธ์เป็นค่าเซ็กเมนต์ผังบัญชี (COA) ที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่างเช่น ผังบัญชี (COA) มีการกำหนดรหัสบัญชี (Natural Account) "600010 - อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และฮาร์ดแวร์" กลุ่มเริ่มต้นนี้ถูกแบ่งออกเป็นหมวดหมู่การซื้อคอมพิวเตอร์โต๊ะ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เครื่องเขียนบันทึก ไม้เลื่อย แป้นพิมพ์ ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก และจอภาพ เป็นต้น

7

INV.P1-1.07 เพิ่มรหัสคลัง (Inventory Organization)

เพิ่มรหัสคลัง (Inventory Organization)

หากใช่ ไปขั้นตอนเพิ่มรหัสคลัง (Inventory Organization) (INV.P1-1.08)

8

INV.P1-1.08 เพิ่มรหัสคลัง (Inventory Organization)

ใน Oracle Fusion สถานที่เก็บสินค้า คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าถูกดำเนินการเป็นหน่วยงานคลังสินค้า

หน่วยงานคลังสินค้าคือ:

·    การจัดการโดยหน่วยธุรกิจ (Business Unit) โดยเปิดใช้งานฟังก์ชันการจัดการวัสดุ

·    ผูกกับหน่วยงานกฎหมายและสมุดบัญชีหลัก

·    ระบุที่อยู่สถานที่ส่งมอบสินค้า

·    กำหนดข้อมูลทางการเงิน

9

INV.P1-1.09 กำหนดรหัสคลังย่อยหรือไม่

กำหนดรหัสคลังย่อยหรือไม่

หากใช่ ไปขั้นตอนเพิ่มรหัสคลังย่อย (Sub-Inventory) (INV.P1-1.10)

หากไม่ใช่ ไปกระบวนการสร้างและจัดการรายการรหัสพัสดุ (INV.P1)

10

INV.P1-1.10 เพิ่มรหัสคลังย่อย (Sub-Inventory)

เพิ่มรหัสคลังย่อย (Sub-Inventory) ถูกใช้เมื่อมีความต้องการจัดเก็บวัสดุหรือสินค้าคงคลังหรือสถานที่เก็บ อย่างไรก็ตามระดับของการจัดเก็บสามารถแยกรายละเอียดใน 3 ระดับภายใต้คลังย่อย เช่นกำหนด แถว (Row) ชั้นวาง (Rack) และช่อง (Bin) ในการจัดเก็บ

หมายเหตุ: การใช้ ตัวระบุตำแหน่ง (Locators) อาจจะไม่จำเป็นต้องกำหนดถ้าหากทางมหาวิทยาลัยไม่สามารรถบันทึกแยกย่อยได้ในระดับตัวระบุตำแหน่ง (Locator) (Row-Rack-Bin) ทั้งนี้ระบบสามารถบันทึกการจัดเก็บพัสดุคงคลังได้ถูกต้องแม่นยำโดยการบันทึกในระดับคลังย่อย

ไปที่ รูปโปรไฟล์ > การตั้งค่าและการจัดการ >ค้นหา >จัดการคลังสินค้าย่อยและพื้นที่จัดเก็บ

คลิก “+” เพื่อเพิ่มคลังสินค้าย่อย

คลิก “ดินสอ” เพื่อทำการแก้ไขคลังสินค้าย่อย

การตั้งค่าและการจัดการ > ค้นหา > จัดการชั้นสินค้า

ค้นหาการ “จัดการชั้นสินค้า”

คลิกที่โฟลเดอร์ “GENERAL” จากนั้นคลิก “+” เพื่อสร้างชั้นสินค้า

ในช่องชั้นสินค้าและช่องชื่อภาษาอังกฤษ ให้ระบุหมายเลข UNSPSC

และในช่องคำอธิบาย ให้ระบุหมายเลข UNSPSC-คำอธิบายของรหัส UNSPSC

จากนั้นให้ทำการคลิกที่ปุ่ม บันทึกและเพิ่มรายละเอียด

เมื่อบันทึกเรียบร้อย จะแสดงหน้าจอดังกล่าว ให้ทำการคลิกที่ปุ่มการจัดการชั้นสินค้า

จากนั้นทำการระบุรหัส “UNSPSC” ในช่อง “คำนำหน้า”

โดยช่อง “เลขที่เริ่มต้น” หมายเลขตัวแรกจะนำหมายเลขตัวสุดท้ายของรหัส UNSPSC มาใส่

จากนั้นให้ทำการรันนิ่งหมายเลขจำนวน 8 หลัก โดยเริ่มต้นด้วยหมายเลข 00000001

ดังนั้น “ช่องเลขที่เริ่มต้น” รหัสจะเป็น X00000001

โดย X จะเป็น หมายเลขตัวสุดท้ายของรหัส UNSPSC

เมื่อทำการระบุรายละเอียดเรียบร้อยให้ทำการคลิกที่ปุ่ม “บันทึกและปิด”

การจัดการผลิตภัณฑ์ > การจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์ > งาน > จัดการแคตตาล็อก

คลิกให้เป็นแท็บสีฟ้า จากนั้นทำการคลิก “+” เพื่อเพิ่มชนิด

ระบุรายละเอียด จากนั้นคลิก “ตกลง”